เมื่อมีคนในบ้านป่วยหนัก ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลระยะเวลานาน โดยเฉพาะโรงพยาบาลรัฐบาล ในห้องรวม หรือห้องเดี่ยวก็ตาม แน่นอนว่าจะต้องมีคนดูแลใกล้ชิด ระหว่างนั้น หากคนในบ้าน หรือญาติพี่น้อง ไม่สามารถดูแลเองได้ ก็ต้องจ้างพยาบาล หรือคนนอกครอบครัวมาดูแล
ผู้ดูแลผู้ป่วย (Formal Caregiver) เป็นอีกอาชีพหนึ่ง มีหน้าที่รับจ้างดูแลผู้ป่วย ทั้งในโรงพยาบาล หรือ ในที่พักอาศัยของคนป่วย ปัจจุบัน ผู้ดูแลผู้ป่วย สังกัดศูนย์บริการรับดูแลผู้ป่วยที่มีอยู่ทั่วไป หรืออาจจะรับงานตรงจากญาติผู้ป่วยได้ นับเป็นอีกอาชีพอิสระที่ใช้ความรู้ ความสามารถ และทักษะพื้นฐานทางการแพทย์ หารายได้เพื่อการเลี้ยงชีพ และที่มากกว่ารายได้ คือ ความรู้สึกว่างานที่ทำเป็นงานช่วยคน ทำแล้วได้บุญด้วย

งานดูแลผู้ป่วยเป็นงานที่มีคุณค่าอย่างไร
พี่อิม ศญาภา เอี่ยมใจสุข มีแม่ป่วยติดเตียงมาระยะหนึ่ง พี่อิมเลือกทำงานที่บ้านมาหลายปีแล้ว เพื่อดูแลแม่อย่างใกล้ชิด แต่ช่วงต้นเดือนกันยายน แม่อาการหนักต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนครปฐม แต่บ้านพี่อิมอยู่นนทบุรี และยังต้องทำงาน ทำอย่างไรจะมีคนดูแลแม่ พี่อิมจึงได้รับเบอร์ติดต่อผู้ดูแลผู้ป่วยจากพยาบาล หลังจากนั้น น้องกุ้ง จึงเข้ามารับจ้างทำงานดูแลแม่ซึ่งพักรักษาตัวในห้องรวมของโรงพยาบาลนครปฐม ประมาณ 10 วันจนกระทั่งแม่หมดลมหายใจ
พี่อิมบอกเล่าความรู้สึกขอบคุณ น้องกุ้ง ผู้ดูแลผู้ป่วย ที่ให้ความเห็นต่อการตัดสินใจสำคัญมากในเวลานั้น
เพราะน้องกุ้ง คนเฝ้าแม่ ติงว่า เสี่ยงมาก ระหว่างการเดินทางจากนครปฐมมากรุงเทพฯ
ตอนนั้น หมอบอกต้องใส่ท่อช่วยหายใจ พี่อยากจะส่งตัวแม่ไปโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพ น้องกุ้ง คนเฝ้าแม่บอกว่า อันตรายนะ ใส่ท่อ ช่วงระหว่างเดินทาง เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เขาพูดจากประสบการณ์ของเขา ทำให้ต้องหยุดคิด
ตอนนั้น คิดแล้วว่า เป็นหนี้ ๆ ก็เป็นหนี้ จะต้องเป็นหนี้อีกหนึ่งก้อน ถ้าพาแม่มาโรงพยาบาลในกรุงเทพ พอเขาพูดก็ช่วยเตือนสติได้ พี่จึงตัดสินใจไม่ส่งตัวแม่มารักษาต่อที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ

ดลฤดี คงทอง น้องกุ้ง อายุ 47 ปี ทำอาชีพดูแลผู้ป่วย เริ่มต้นจากการไปเฝ้าดูแลย่าซึ่งนอนป่วยในโรงพยาบาล เมื่อย่าเสียไปแล้ว น้องกุ้งจึงเรียนต่อโรงเรียนการบริบาล และได้ประกอบอาชีพนี้ต่อมากว่า 20 ปี คำถามที่น่าสนใจคือ
ลูกค้ามาจากไหน?
เราจะบอกพยาบาล พี่ว่างตามพี่นะ ถ้ามีเคส ญาติจะติดต่อพยาบาล ๆ จะให้เบอร์โทร ติดต่อคนเฝ้าไข้ บอกต่อ ๆ กัน เขาบอกกัน เราดูแลคนป่วยดี ญาติจะแนะนำบอกต่อ ๆ กัน พยาบาลจะเป็นคนพิจารณาด้วยว่าเราทำงานดี จะให้เบอร์โทรกับญาติ ถ้าทำไม่ดี ญาติจะบอก คนนี้ไม่เอาแล้ว
งานที่ต้องทำ ไม่ง่ายเหมือนงานบ้าน
เราทำให้ทุกอย่าง ฟีดอาหาร ดูดเสมหะ ทำแผล เช็ดตัวคนไข้ ถ้าคนไข้ใส่ท่อช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็อาบน้ำบนเตียง ดูแลทุกอย่าง เปลี่ยนผ้าปูเตียงเรียบร้อย เรียกว่าพยาบาลไม่ต้องมาทำอะไรเลย พยาบาลฉีดยาอย่างเดียว บางเคสดูแลเป็นเดือน สองเดือน หรือสองสามอาทิตย์ แล้วแต่เคส จะมีเคสหนัก เคสเบา
ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือผู้ป่วยนอนไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถตอบสนองหรือสื่อสารกับผู้อื่นได้ ได้รับการเจาะคอ ใส่สายยางเข้ากระเพาะอาหาร ใส่สายสวนปัสสาวะ
เราทำให้ทุกอย่าง วัน ๆ หนึ่ง คอยตะแคงตัว พลิกตัวให้ทุกสองชั่วโมง ฟีดอาหารเหลว เช็ดตัว สวนปัสสาะวะวันละ 3-4 ครั้ง เปลี่ยนผ้าปูเตียง ดูแลอุปกรณ์การแพทย์เก็บเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นถังออกซิเจนพร้อมสายต่อ เครื่องดูดเสมหะ อุปกรณ์ทำแผล อุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนสายต่าง ๆ และให้อาหารเหลวทางสายยาง รวมทั้งยาอีกหลายชนิด
คนไข้แต่ละคนเจ็บป่วยแตกต่างกันไป วิธีการดูแลก็จะแตกต่างกัน
คนไข้จิตเวช จะโวยวาย เสียงดัง และคนไข้ติดเหล้า จะยากหน่อย โรคซึมเศร้า ทำร้ายตัวเอง ต้องผูกต้องมัดไว้ ถ้าไม่ผูกเดี๋ยวเขาโดดตึก มันจะยาก ๆ หน่อย เราต้องคอยเอาใจ ปลอบประโลมเขา เขาจะหวาดกลัวตลอดเวลา ต้องมีจิตวิทยาพูดปลอบเขา ให้เขาคลายความกลัว ความตึงเครียด ถ้าเป็นคนแก่ ต้องเอาใจนิดหน่อย ถูกใจ เขาจะติดเรา ถ้าอยู่กับลูกจะดื้อ แต่อยู่กับคนเฝ้า เขาจะเป็นอีกคนหนึ่ง ว่านอนสอนง่าย
วิธีคุยกับคนไข้ ต้องเชื่อหมอนะ ถ้าอยากกลับไปอยู่กับลูกนาน ๆ ดูแลตัวเอง กินยาตามหมอสั่ง ยาหมดมาเอา อย่าขาดยา มาตามหมอนัด จะได้อยู่อีกเป็นร้อย ๆ ปี คนไข้จะหัวเราะ เราจะเตือนคนไข้ กลับบ้านไป กินน้ำแบบจิบ ๆ ถ้าน้ำท่วมปอด ต้องใส่ท่อ ยาวเลยนะ ใส่ท่อแล้วเอาออกไม่ได้ ต้องเจาะคอ คนไข้จะเข้าใจ

นอกจากดูแลคนป่วย Caregiver ก็ต้องดูแลตัวเองด้วย
เราจะเซฟตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย และถุงมือตลอดเวลา ถ้าคนไข้ติดเชื้อ คนไข้วัณโรค ทีบี อยู่ห้องแยก จะเสี่ยงมากต้องระวังกว่า คนไข้ใส่ท่อช่วยหายใจ เราจะใส่ถุงมือ อุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ อย่างช่วงโควิด19 ก็จะตรวจเอทีเค ทุก 7 วัน ผ่านมาโดยไม่ติดโควิดเลย แต่ฉีดวัคซีน 2 เข็มนะ ต้องให้โรงพยาบาล ให้ญาติคนไข้ดูก่อนทำงาน พอจบเคส เราจะพักผ่อนให้เพียงพอ จะนอนเยอะ ๆ มีอาหารเสริมบ้างนิดหน่อย
ทำอย่างไร จึงได้งานต่อเนื่อง
งานอิสระ อยู่ได้ เพราะเราไม่ทำอะไรเสียหายให้โรงพยาบาล ถ้าเราทำอะไรเสียหาย เขาไปร้องเรียน ผอ.เราก็อยู่ไม่ได้ เราต้องทำตามกฎระเบียบของโรงพยาบาล ในโรงพยาบาลรัฐ โดยมากญาติจะจ้างคนดูแล เพราะคนไข้ล้น พยาบาลน้อยดูแลไม่ทั่วถึง คนไข้ล้น เพราะว่าลูกบางคนเขาทำงานรับราชการอย่างนี้ จะหยุดไม่ได้ ก็จะจ้างดูแล เพราะบางทีงานเขาหยุดไม่ได้ หยุดนาน งานบริษัทจะถูกไล่ออก เขาก็จ้างคนเฝ้า
บางทีข้างเตียง เขาก็มาติดต่อ เราส่งให้เพื่อนรับงาน มีกลุ่มเพื่อน 4-5 คน รวมกลุ่มที่ทำงานดี ๆ ทำแล้วญาติพอใจ ถ้าทำแล้วญาติไม่ชอบ เราไม่เอาเข้ากลุ่ม เราทำงานอิสระก็จริง เราทำด้วยใจ ไม่ใช่รับเงินญาติมาแล้ว ไม่สนใจคนไข้
เราเห็นใจเขา เราเอาค่าแรงพออยู่ได้ ไม่เอาเพิ่ม เรารู้เศรษฐกิจไม่ดี เราไม่เพิ่ม เราได้บุญด้วย จะไม่เรียกร้องอะไรเพิ่ม เราไม่เห็นแก่เงินอย่างเดียว เราเห็นใจเขา ค่าใช้จ่ายเขาก็เยอะ ต้องซื้อของใช้คนไข้ด้วย ถ้าเขาไม่ป่วยจริง ๆ เขาคงไม่มานอนโรงพยาบาล เป็นงานบริการเรารับดูแล 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ค่าจ้าง 5-600 บาท ตอนนี้ค่าจ้างมาตรฐาน 800 บาท ถ้าไปดูแลตามบ้าน ขอค่าข้าวเพิ่ม 150 บาท แต่มีบางคนเรียกประมาณ 1,000 บาท
ผู้ดูแลผู้ป่วย (Caregiver) ส่วนมากเขาจะเริ่มต้นเรียนหลักสูตรพื้นฐานพนักงานช่วยเหลือคนไข้ โรงเรียนการบริบาล ได้ใบประกาศนียบัตรมา แต่ไม่อยู่ศูนย์บริการรับดูแลผู้ป่วย ออกมารับงานอิสระเอง เพราะว่าศูนย์ฯ หักเยอะ เช่น ญาติจ้าง 24,000 บาท ศูนย์ฯ จ่ายเรา 15,000 บาท ถ้ามาดูแลที่กรุงเทพ จะเป็นอีกราคา เพราะค่ากิน ค่าข้าว เรียกค่าจ้าง 1,200 บาท มีค่าข้าว 200 บาท
คิดว่าปัญหาสาธารณสุขตอนนี้คืออะไร
ปัญหาตอนนี้คือ คนไข้ล้น ถ้าโรงพยาบาลจังหวัด ทุกอำเภอส่งคนไข้มา คนไข้โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง พยาบาลไม่พอ หมอต้องวิ่งรอบ หมอยังต้องทำงานบริหารด้วย
ดูแลคนไข้มาหลายปี คนไทยเป็นโรคอะไรเยอะ
โรคไต เพราะกินเค็ม กินอาหารรสจัด ทำให้ไตวาย ต้องฟอกไต ถ้าโรคเบาหวาน กระทบหัวใจทำงานหนัก ส่วนมากจะมีอาการน้ำท่วมปอด เบาหวานจะทำให้ป่วยอีกหลายโรค โรคไต โรคตับ โรคหัวใจ เพราะการกินไม่เลือก หรือเป็ปซี่ก็ทำให้เป็นเบาหวานได้ เด็ก อายุน้อย ๆ ก็เป็น พวกนักเรียน เพราะข้าวไม่กิน กินเป็ปซี่ ของกินสมัยนี้ กินแล้วอันตราย
โรคหัวใจ เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ หัวใจโต ทำให้น้ำท่วมปอด เหนื่อย ไอแห้ง ๆ นอนหงายไม่ได้ หายใจไม่ได้ ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ถ้ากินน้ำ แต่ปัสสาวะน้อยกว่าที่กิน น้ำจะท่วม น้ำไม่มีที่ไป ตัวจะบวม ต้องกินยาขับปัสสาวะ บางคนเป็นโรคตับก่อน แล้วตามด้วยโรคไต ตับแข็ง ไม่เฉพาะดื่มเหล้า แต่เพราะทานยามากไป ซื้อยากินเอง

เสียงสะท้อนจากญาติคนไข้ที่ใช้บริการ
น้องกุ้งดูแลแม่พี่สิบกว่าวัน เขาดูแลดี ดูแลยี่สิบสี่ชั่วโมง ดูความสะอาด โอเคเลย วัสดุ สิ่งของ การใช้งานอะไรบ้าง เขาจะบอกหมด ด้วยความเป็นมืออาชีพของเขา เราไปซื้อเตรียมหมด ถ้าแม่พี่มีอาการเหมือนจะแย่ เขาจะแชทไลน์มาบอก ยายต้องใส่ท่อนะพี่ แต่เราอนุญาติให้ใส่ท่อแล้ว นี้คือการที่เขาแจ้งอาการให้เรา
วันที่แม่สิ้นใจ เขาแชทไลน์มาบอก ยายหายใจเหนื่อยแล้วนะ เหมือนกับให้เรารีบไปโรงพยาบาล แต่ไม่บอกเราตรงๆ เขาบอกอ้อม ๆ น้องเป็นคนอารมณ์เย็น เพราะต้องรับมือกับคนไข้ที่มีความฉุนเฉียว หงุดหงิด จากการที่พี่ถามอะไรต่าง ๆ พี่ต้องถามทุกวันอยู่แล้ว เขาเต็มใจตอบ และอะไรที่เตือนเรา เราไม่มีความรู้มากเท่าเขา เขาจะบอกเรา หรือ เราอาจถามเรื่องอุปกรณ์ เช่น ใส่ท่อช่วยหายใจ เราก็นึกภาพไม่ออก เขาจะพาไปดูจะหน้าตาแบบนี้นะ เขาชินกับอุปกรณ์ใช้งาน เขาเจอผู้ป่วยในเคสแบบนี้ก็เจอมาเยอะ
มากไปกว่านั้น เขามีน้ำใจมาก นอกเหนือจากการดูแลแม่พี่ เขายังมีสายตาที่เอื้อเฟื้อ และช่วยเหลือเตียงข้างเคียงด้วยนะ เห็นหลายครั้ง รู้สึกถึงจิตใจดีของน้องกุ้ง
ขอบคุณภาพ : มูลนิธิสถาบันวิจัย และพัฒนาผู้สูงอายุไทย The Cloud