Skip to content
เสริมสุขภาวะที่เป็นธรรม สร้างพลังแรงงานนอกระบบ

“ฟาง”…เส้นสุดท้ายของเขมราฐ

“ฟาง”…เส้นสุดท้ายของเขมราฐ

“เขมราฐ” เมืองเล็กๆของอุบลราชธานี ที่มีความสวยงามสงบทั้งผู้คน ศิลปะวัฒนธรรมและวิถีชีวิต มายาวนาน  เมืองที่ไม่ต่างจากเมืองอื่นๆที่ผู้คนส่วนใหญ่คือผู้สูงอายุ ขณะที่หนุ่มสาววิ่งเข้าหาเมืองใหญ่เพื่อหางานทำตามวิถีการเรียนที่จบมาหลังถูกปลูกฝังว่า ต้องเรียนจบปริญญา และมีงานทำ  และหนึ่งในนั้นคือ “ฟาง” สาวผู้มีดีกรีวิทยาศาสตร์บัณฑิตด้านธรณีวิทยา

ชีวิตมนุษย์ทำงานเงินเดือนหมื่นห้า

“ฟาง” สุจินันท์ ใจแก้ว เรียนจบปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ ที่ ม.เชียงใหม่ หลังเรียนจบเข้าสู่ระบบการเป็นลูกจ้างในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร ได้เงินเดือนๆละ 15,000 บาท  อาศัยแบ่งค่าห้องเช่ากับเพื่อนคนละครึ่งที่เหลือคือเงินกินเงินค่าเดินทาง ฟางบอกกับ LDI ว่า ไม่มีเงินเหลือเก็บหรือส่งให้แม่

“ทำงานเหมือนคนอื่นเรียนจบหางานทำ มันไปตามระบบการศึกษาที่เรียนมา แม่ก็ถามว่าทำงานอะไร เหนื่อยมั้ย”

จนกระทั่งวันหนึ่งแม่มาเยี่ยมที่หอพักและเห็นภาพความเป็นอยู่จึงบอกกับฟางว่า…”กลับบ้านเถอะ”

นั่นคือจุดเริ่มต้นให้ “ฟาง” กลับบ้านมาที่เขมราฐบ้านเกิด

เริ่มความคิดพัฒนาบ้านเกิดสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีเรื่องเล่า

          แม้จะกลับมาบ้านแล้วแต่ฟางก็ยังหางานทำเป็นลูกจ้างของเทศบาลอยู่ระยะหนึ่ง จนกระทั่งเกิดความคิดว่า ทำไมไม่เอาความรู้ที่เรียนมาและประสบการณ์มาพัฒนาบ้านเกิดน่าจะดีกว่า เลยลาออกมาและเป็นฟรีแลนด์ทำงานหลายอย่างทั้งออกแบบผลิตภัณฑ์ ออกแบบร้านค้า ระหว่างนั้นเริ่มคิดว่าที้บานเกิดเขมราฐมีของดีหลายอย่างที่เป็นทรัพย์อันมีค่าของพื้นที่เช่น ผ้าทอ หินแม่น้ำโขง นำมาสู่การหาเพื่อนและหาพี่ในบ้านเกิดเพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าให้พื้นที่

“เขมราฐคือพื้นที่ที่มี …เหรา …เหราอยู่หน้าโบสถ์ที่วัดคือสัญลักษณ์และเรื่องเล่าที่ฟางคิดนำมาใส่ในผ้าทอของพ่อ ๆ แม่ ๆ ที่ทำผ้าทออยู่แล้ว ทำให้ผ้าทอมีเรื่องเล่ามากกว่าผ้าธรรมดา”

           อีกตัวอย่างสินค้าที่ฟางทำคือการนำหินแม่น้ำโขงที่ฟางทำมาถักร้อยเป็นกำไล เพราะหินแม่น้ำโขงคือชีวิตของคนริมโขงที่รู้จักกันดีมีเรื่องเล่าที่ผูกพันกับพญานาค

สังคมชุมชนตั้งคำถามกลับมาเอาอะไรกิน?

ช่วงแรกของการกลับมาบ้าน แม่ของฟางต้องตอบคำถามเยอะมาก  ถึงการกลับมาอยู่บ้านทั้งที่เรียนหนังสือมาจบสูงๆแต่ไม่ทำงานกลับมาก็เห็นเดินไปเดินมา ทำให้ฟางรู้สึกเครียดและเป็นห่วงความรู้สึกของแม่มาก จนผ่านมาถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 4 ปีคำถามเหล่านั้นหมดไปและกลายเป็นคำชื่นชมของคนในพื้นที่แทน

“สงสารแม่ช่วงแรกมีคนมาถามว่า ลูกเรียนจบสูงกลับมาทำไรกิน เห็นเดินไปเดินมา ขอเงินแม่ไม๊ ทำไมไม่ทำงานในกรุงเทพ แต่แม่ตอบแบบชิวๆ แม่บอกมันเลี้ยงตัวเองได้ตั้งแต่กลับมาไม่เคยขอเงินพ่อแม่”


เครือข่ายคนรุ่นใหม่สำคัญ

ในมุมมองของฟางการกลับมาบ้านเกิดของคนรุ่นใหม่อาจจะยากในช่วงแรก แต่สิ่งที่ต้องมองหาคือ ทรัพยากรในพื้นที่ที่มีคุณค่าสำหรับการพัฒนาและเพิ่มเติม  แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ เครือข่ายคนรุ่นใหม่หรือรุ่นกลางรวมถึงหน่วยงานในพื้นที่ที่ต้องเข้าใจและสนับสนุนเช่น เป้ เพื่อนของฟางที่แม้จะจบแค่ม.6 แต่มีความสนใจเรื่องผ้าทอในพื้นที่เข้ามาช่วยฟางในการทำงานจนกระทั่งช่วงหนึ่งที่กระแสบวงสรวงองค์พญานาคบูมมากๆ ดารานักแสดงมาส่งผลให้เป้สามารถยึดเป็นอาชีดีไซน์เนอร์ได้ในที่สุด  หรือการริเริ่มพัฒนาพื้นที่ถนนคนเดินในยุคแรกกับพี่วัชรินทร์ ผู้ก่อตั้งเพจ “ฮักนะเขมราฐ” ที่ท้ายที่สุดเทศบาลได้เข้ามาสนับสนุน

“การหาพันธมิตรและหน่วยงานที่จะร่วมกันสนับสนุนเป็นเรื่องที่ฟางคิดว่ามีความสำคัญและจะทำให้การทำงานไม่หยุดนิ่งและยั่งยืน ถ้าขาดความเข้าใจก็จะเป็นปัญหา”

 

ปัจจุบัน “ฟาง” มีความสุขกับการทำงานมีความสุขที่ได้เห็นบ้านเกิดเติบโตไปในทิศทางที่ดี  การกลับมาคืนถิ่นเพื่อพัฒนาบ้านเกิดไม่ได้เป็นสิ่งที่ฟางคาดหวังไว้ตั้งแต่เริ่มต้นแต่กำลังเป็นความคาดหวังปลายทางของชีวิตที่จะเห็น เขมราฐเป็นเมืองมนต์เสน่ห์ที่ผู้คนต่างถิ่นแวะเวียนมาเสพศิลป์เยี่ยมเยือนไปอีกนานเท่านาน และที่สำคัญที่สุด …

“ฟาง…หวังว่า ฟางจะไม่ใช่ฟางเส้นสุดท้ายของเขมราฐตราบเท่าที่ยังคงมีการสานต่อจากคนรุ่นใหม่ที่รักบ้านเกิดเช่นเดียวกับฟาง”

ประวัติผู้เขียน 

ดร. นิพนธ์ ตั้งแสงประทีป ยึดอาชีพทำข่าวมานานกว่า 28  ปี ปัจจุบันยังคงทำงานเป็นคนเล่าเรื่องและผู้ผลิตสารคดีข่าวผ่านรายการ Big story ไทยพีบีเอส  เป็นอาจารย์ประจำสอนด้านนิเทศศาสตร์และทำงานสื่อสารให้กับมูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา (LDI)

Share the Post: