วิกฤตโควิด19 ส่งผลกระทบต่อทุกคนไม่ทางตรงก็ทางอ้อม การปิดเมืองส่งผลให้กิจการต่าง ๆ ขาดรายได้ ต้องพยายามประคับประคองกิจการให้รอด
บริษัท โซลิดาริตี้ กรุ๊ป จำกัด เป็นอีกหนึ่งกิจการขนาดเล็กที่ประคองตัวนาน 2 ปีผ่านพ้นมาได้ หลังโควิด19 งานเข้าแล้ว แต่รายได้ไม่เพิ่ม
ป้ากชพร กลักทองคำ หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทฯ บอกเล่าประสบการณ์การดูแลกิจการให้รอด
“โควิด19 รอบแรก ก็แย่แล้ว ระบาดรอบ 2 ไม่มีงาน แต่เรามีผ้าเหลือจากงานลูกค้า จึงนำมาเย็บ เพื่อจะมีค่าแรงให้น้อง ๆ แต่งานก็ขายไม่ได้ เก็บเข้า สต๊อก คนไม่มีกำลังซื้อ”
“หลังโควิด19 งานเยอะขึ้น แต่ต้องรับค่าจ้างราคาเดิม ทั้ง ๆ ที่วัตถุดิบราคาขึ้น ดังนั้นกำไรเดิม 40 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์ ยอมเสมอตัวเพื่อแลกกับการจ้างงาน เพื่อจะอยู่ได้”
“บางงานไม่มีทุนเลย บริษัทที่ส่งงานให้เรา เขาไปคุยกับร้านผ้า ขอเครดิต จบงานค่อยจ่าย บางบริษัทจ้าง 2 หมื่นตัว ค่าผ้าเป็นล้านบาท เราบอกไม่ไหว บริษัทก็ไปคุยร้านผ้าให้ เราก็รับงานได้”
ป้ากชพร สรุปว่าต้องดูแลการผลิต และส่งงานแบบต้องไม่พลาดเลย หากส่งไม่ทันจะมีต้นทุนเพิ่ม คือค่าจัดการ ดังนั้นหลังโควิด19 ดูเหมือนดีขึ้น แต่จริง ๆ ไม่ใช่ เพราะกำไรไม่เพิ่มขึ้น ต้นทุนสูงขึ้นทุกอย่าง ทำให้ความสามารถปลดหนี้สินที่เกิดช่วงโควิด19 ก็น้อยลง

รวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว เราไม่ทิ้งกัน
ย้อนกลับไปเมื่อ 25 ปี ก่อน ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่า โรงงานที่ทำอยู่เป็นหนึ่งในกิจการที่เจ๊ง เพราะวิกฤตการเงินต้มยำกุ้ง
“ตอนมีโรงงานคนงานทำงานทั้งวันทั้งคืน ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องพัก แต่เช้ามา โรงงานติดป้ายปิดบริษัท หาตัวนายจ้างไม่เจอ เงินเดือนไม่จ่าย คนงานจึงรวมตัวมากระทรวงแรงงาน จึงทราบว่าโรงงานย้ายฐานไปแม่สอด รวมตัวเรียกร้องเป็นเดือน ให้กระทรวงแรงงานช่วยคนงาน ๆ รวมกันไปแจ้งความ จึงทราบว่าเจ้าของหนีไปต่างประเทศอีก”
ป้ากชพร จำช่วงเวลานั้นได้ดี เมื่อคนงานทั้งหมดถูกลอยแพ จึงรวมตัวกันกัน 40 กว่าคนซื้อจักรเย็บผ้า เปิดบิลรับงานเอง โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศช่วยหาลูกค้าให้
“รวมกลุ่มกันรับงานเย็บผ้า ทำกันเอง ไม่กดขี่กัน”
ก่อนจะตั้งบริษัท กลุ่มพยายามหางานหาลูกค้าให้ต่อเนื่อง แต่ประสบรายได้ไม่แน่นอน เพราะคนจ้างงานน้อยลง บางช่วงไม่มีงาน ทุกคนต้องกินต้องใช้ คนที่รองานไม่ได้ก็ออกไป บางครั้งลูกค้าไม่จ้างเพราะไม่มีใบ ภพ.20
“กลุ่มจะปิดหลายรอบ เพราะไปไม่ได้ จนสุดท้ายเหลือ 13 คน จึงคิดกันว่าควรจดทะเบียนเป็นบริษัท เพื่อประมูลงานได้”
ปี 2562 จึงรวมเงินกันจดทะเบียนบริษัท โซลิดาริตี้ กรุ๊ป จำกัด รับจ้างผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปแบบครบวงจร

ผลงานคุณภาพ และตรงเวลา คืออนาคตของกลุ่ม
ปัจจุบันสถานะรายได้ของบริษัทฯ ยังไม่มากพอปลดหนี้ แต่งานรับจ้างผลิตเสื้อผ้ายังมีอนาคต ยังไปต่อได้ ซึ่งหมายถึง คนงานกว่า 30 ชีวิต และเครือข่ายรับงานทำที่บ้านอีกหลายสิบกลุ่ม ยังมีรายได้ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ป้ากชพร เริ่มถ่ายทอดสอนงานให้ลูก ๆ และวางแผนขยายงานด้านออนไลน์
“การรับจ้างผลิตเสื้อสำเร็จรูป จะต้องรู้ว่า เสื้อหนึ่งตัว มีต้นทุนเท่าไร 100 ตัวจะจัดการอย่างไร ปัญหาคือไม่มีทุนหมุนเวียน รับทำทุกงานทั้งกำไรน้อย หรือขาดทุนก็ต้องทำ เพื่อรักษาลูกค้า จะรับเฉพาะงานกำไรมาก หรือไม่ขาดทุน จะไม่รอด เช่น งานล็อตเล็ก ไม่คุ้ม เพราะเสียเวลา และค่าใช้จ่าย เท่ากับล็อตใหญ่ แต่บางครั้งต้องรับ เพราะบริษัทขอให้ทำเพื่อรักษาลูกค้า”
“บางงานยากมาก จ้างที่ไหนไม่ได้เลย มันยาก เราเอางานมาขึ้นแบบ 7 วันบางทียังไม่ได้ เราเสียค่าแรงไป 2 หมื่นแล้ว แต่เราก็ต้องยอมทำ แม้จะขาดทุนก็ตาม”
“กลุ่มอยู่ได้เพราะมีจุดแข็ง คือ มาตรฐานงานฝีมือ ตรงเวลา และทำได้ครบวงจร”


