
‘ผมทำนาปลูกผักผมอยากจะเป็นเจ้าของยางสักไร่ นาเกลือหน่อย บ้านผมไม่มีเกลือ แลกกับนากับผลไม้ กาแฟในไร่ของผมโดยต่างคนต่างช่วยกันดูแลส่งผลิตให้กันได้ไม๊ นี่คือที่ควรจะเป็นหรือเปล่า’
คำพูดของ ‘กวิ๊’ หรืออำนวย นิยมไพร ชาวปกาเกอญอ แห่งบ้านหนองเต่า ในอำเภอแม่วิน จังหวัดเชียงใหม่ทำให้ผมต้องหยุดคิดเหมือนกันว่า ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้ หรือเรากำลังติดกับดักทุนนิยมที่ถูกปลูกฝังตลอดมา
ทำไมยางแลกนาเกลือแลกพลับไม่ได้
กวิ๊ ชายหนุ่มกำลังอยู่ท่ามกลางนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ที่มาศึกษาดูงานที่บ้านและไร่ของกวิ๊ ถามว่ามาศึกษาอะไร นักศึกษาเหล่านี้มาดูวิถีชีวิตดูการใช้ชีวิตของกวิ๊ ดูการปลูกผัก ปลูกกาแฟ ชงกาแฟและอื่นๆ นักศึกษาเหล่านี้กำลังขะมักขะเม้นกับการทำอาหาร กวิ๊บอกว่า นักศึกษาทุกคนกำลังเรียนรู้วิถีชีวิตและทุกๆการทำงานมีความรู้แฝงอยู่ โดยไม่ต้องมาบรรยายหรือทำพาวเวอร์พอยท์
‘มีครั้งหนึ่งนักศึกษาจีนมาดูงานอยู่ได้สองวันถามผมว่าทำไมไม่สอนอะไร ผมเลยถามวันนี้ทำอะไร เค้าบอกทำอาหารผม บอกไปดูอาหารสิมีพืชผักอะไรบ้างสมุนไพรตัวไหน มันมาจากไหนผมเอามาจากไหนในพื้นที่ผมมีไม๊ สุดท้ายเขาเข้าใจว่าความรู้มีอยู่ทุกที่ ทุกวันนี้นักศึกษาจีนคนนี้กลับไปบ้านโทรมาเล่าผมว่ามีธุรกิจของตัวเองที่บ้านชุมชนปลูกอะไรก็เอาไปแลกเปลี่ยนกับชุมชนหมู่บ้านอื่น ที่เหลือเอาไปขายทำธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์’
ให้เริ่มจากพอกินไม่ใช่พอขายแล้วเอาเงินมาซื้อไม่งั้นเท่าไหร่ก็ไม่พอ
กวิ๊บอกว่า เขาเรียนจบแล้วกลับบ้านมาก่อนที่จะลงมือปลูกกาแฟฟื้นฟูเปลี่ยนจากการทำพืชเชิงเดี่ยวเป็นการปลูกอย่างพอดีมีกินก่อนเช่นเรื่องกาแฟเพราะชอบกินกาแฟเลยปลูกแล้วเรียนรู้การทำกาแฟแล่วส่งเสริมชาวบ้านชุมชนปลูก แต่ปลูกแต่พอประมาณขณะเดียวกันยังต้องปลูกข้าวปลูกผักเลี้ยงไก่ ทั้งหมดบนพื้นฐานให้พอมีพอกินก่อนคิดจะขาย
กวิ๊ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากหากเข้าใจหลักคิดวิธีการทำก่อน เช่นเขาปลูกต้นพลับชาวบ้านเคยได้รับการส่งเสริมให้ปลูกกันอย่างมากมายแต่มีราคาตกต่ำลงเรื่อย ๆ เขาจึงไปศึกษาที่ญี่ปุ่นตอนที่เรียนรู้เรื่องกาแฟและพบว่าที่ญี่ปุ่นไม่ได้ปลูกมากมายแบบบ้านเรา แต่ละครัวเรือนมีวิธีการปลูกจำนวนไม่มากแต่เน้นคุณภาพ ทำให้ท้ายที่สุดเกษตรกรอยู่ได้



‘ผมสงสัยเลยไปดูเรียนรู้การปลูก เขาตัดกิ่งออกหมดให้เหลือน้อยสุดเพื่อให้ลูกพลับออกมามีคุณภาพแต่ของเราคิดว่ากิ่งยิ่งเยอะยิ่งดี ออกมาเยอะๆ วิธีคิดสวนกันทำให้เราไม่มีของที่มีคุณภาพแถมยังล้นตลาด นี่คือสิ่งที่ผมบอก ต้องเข้าใจหลักคิดก่อน’
เพราะสังคมทุนนิยมทำให้เราตกเป็นเครื่องมือของการใช้เงินเป็นหลัก
ปฎิเสธไม่ได้เลยสำหรับเรื่องของเงิน กวิ๊บอกว่า มันจำเป็นแต่เราต้องรู้จักใช้เช่นเขาใช้เงินที่เก็บไปเรียนรู้การทำกาแฟที่อินโดนีเซียที่ญี่ปุ่นเรียนรู้การปลูกพลับ เพื่อเอากลับมาใช้กับตัวเองแต่เราจะไม่ใช้เงินสำหรับสิ่งของฟุ่มเฟือย กับดักทุนิยมที่เด็กหรือคนรุ่นใหม่กำลังเรียนคือการมุ่งไปสู่การหาเงินเพื่อนำไปใช้จ่าย กวิ๊บอกว่าเขาเข้าใจคนรุ่นใหม่ดี บางครั้งพ่อแม่ส่งไปเรียนแล้วกลับมาอยากกลับบ้านก็จะถูกตั้งคำถามว่ากลับมาทำอะไร
‘ผมเป็นอาสาคืนถิ่นรุ่นแรก ผมเข้าใจนะเพิ่งไปช่วยดูเด็กสองคนกลับมาบ้าน พ่อแม่ก็ถามส่งเรียนสูงๆแต่เขาคิดแล้วกำลังจะทำแพลตฟอร์มพัฒนาสินค้าเกษตรของที่บ้าน แน่นอนต้องใช้ทุนบ้างแต่ทุนครั้งแรกก็ต้องพอและต่อยอดเป็นคิดให้รอบคอบ แต่พ่อแม่ก็จะเริ่มถามละเพราะพ่อแม่ก็ถูกปลูกฝังมาแบบนั้น ไม่มีใครผิด แต่เด็กรุ่นใหม่ต้องอดทน’
ทุกคนมีหน้าที่แต่ทำหน้าที่เพื่อใคร?
เราไม่ได้ปฎิเสธการมีอยู่ของคนทำหน้าที่ต่างๆในสังคม แต่ทำหน้าที่นั้นเพื่อใครต่างหากคือสิ่งที่กวิ๊ตั้งคำถามเช่นนักการเมืองทำเพื่อชาวบ้านในพื้นที่หรือเปล่าเป็นตัวแทนของพวกเขาหรือเปล่าเช่นคนรุ่นใหมท่ที่ผมบอกอยากทำแต่ไม่มีทุนจะทำอย่างไร จะพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไรเช่น พลับจะเอามาแปรรูปผมเห็นที่ญี่ปุ่นท้องถิ่นส่งเสริมกันจริงจังตั้งแต่การแปรรูปจนถึงแพคเกจ ทุกคนมีหน้าที่แต่ทำหน้าที่เพื่อใครเพื่อประชาชนหรือเพื่อตัวเอง
กลับมาที่จุดเริ่มต้นวันนี้ กวิ๊บอกว่า อยากให้คนรุ่นใหม่หลุดจากกับดักทุนนิยม พยายามมองดูรอบตัวโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีพื้นฐานจากต่างจังหวัดว่าบ้านเรามีอะไรดี แล้วลองศึกษาให้มากๆว่าาจะมีอะไรเป็นลู่ทางทำได้บ้าง เริ่มทดลองจากเล็กๆ แล้วค่อยขยับไปเรื่อยๆอย่าไปตั้งเป้าว่าจะหาเงินให้ได้เยอะๆ
‘ผมไม่ได้รวย แต่ที่บอกคือ เรามาแลกเปลี่ยนกันได้ไม๊ผมไม่ต้องซื้อเกลือ คนทางใต้อยากกินพลับเดี่ยวผมส่งให้ อยากกินกาแฟผมส่งให้ อยากกินพลับ ผมดูแลไร่พลับให้ ส่วนทางนั้นดูแลยางให้ผมดูแลสะตอให้ผม ถึงเวลาเราแลกกัน เป็นแบบนี้จะดีขนาดไหน ส่วนเงินเอาไว้ซื้อที่จำเป็นและใช้เงินในการซื้อให้น้อยที่สุดก็แค่นั้น’






ประวัติผู้เขียน
ดร.นันท์วิสิทธิ์(นิพนธ์) ตั้งแสงประทีป
ทำข่าวมาทั้งชีวิต สนใจวิถีชีวิตความเป็นไปของผู้คน ชุมชนและความเท่าเทียมในสังคม
ปัจจุบันเป็นคนเล่าเรื่องสารคดีข่าว Big story เป็นอาจารย์สอนหนังสือ