วันที่ 30 มีนาคม 2566 ณ ห้องประชุม Ubon Café จังหวัดอุบลราชธานี มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคีเครือข่ายและกลุ่มองค์กรด้านอุบัติเหตุ โดยการประชุมนี้เป็นการเก็บข้อมูลการวิจัย โครงการ “สร้างเสริมสุขภาวะแรงงานนอกระบบ” จัดโดยสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา (LDI) สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

          ในการประชุมฯครั้งนี้มีตัวแทนไรเดอร์ นักวิชาการ สื่อมวลชนท้องถิ่น เข้าร่วมประชุม คุณนิกร วีสเพ็ญ ทนายความ อดีต กกต. จังหวัด ประธานสมาคมสิทธิเสรีภาพประชาชน แสดงความคิดเห็นว่า บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มควรมองไรเดอร์ว่าเป็นลูกจ้างและห่วงในสวัสดิภาพ

“ต้องเริ่มจากเห็นไรเดอร์เป็นคนก่อน เวลาเกิดอุบัติเหตุ ไรเดอร์แจ้งศูนย์ของบริษัทฯ แต่บริษัทฯถามกลับมาว่าอาหารเป็นอย่างไรบ้าง อย่างนี้มันคืออะไร พวกเขาต้องถูกมองอย่างมีตัวตน นายจ้างต้องดูแล ต้องมีกฎหมายมาบังคับ ไม่ใช่ปล่อยให้บริษัทฯทำตามอำเภอใจ ปล่อยให้ AI มาถามคนจะเป็นจะตายว่าไปส่งอาหารหรือยัง”

           ขณะที่คุณภานุภพ ยุตกิจ สื่อมวลชนท้องถิ่น ผู้ขับเคลื่อนโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุอบลราชธานีแสดงความคิดเห็นว่า ตนเองทำงานรณรงค์อุบัติจราจร มีข้อมูลว่า 90% ของอุบัติเหตุมาจาก ‘มนุษย์ปัจจัย’ แต่กรณีไรเดอร์เห็นเลยว่ามันมี ‘เทคโนโลยีปัจจัย’ ที่มันกดดันให้เกิดพฤติกรรมขับขี่อย่างที่เป็นอยู่ ถ้าจะใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์มันทำได้ มันเก็บข้อมูลตลอดเวลา มันคำนวณได้ว่า ควรให้ไรเดอร์วิ่งวันละกี่รอบ กี่ชั่วโมง ควบคุมความเร็ว และค่าตอบแทนควรเป็นเท่าไร ใช้เทคโนโลยีให้เป็นเครื่องมือแบบนี้ได้ ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทเห็นแก่อะไรมากกว่ากัน

           ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์เนตรดาว เถาถวิล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ระบุว่า ไรเดอร์เป็นตัวอย่างของงานที่มีความเสี่ยงในสถานการณ์ล่าสุด คือทุนอาศัยความได้เปรียบจากการเคลื่อนย้ายทุนได้เสรี บวกกับเทคโนโลยี โอนความเสี่ยงไปที่แรงงาน ผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดโยนภาระไปให้คนที่อยู่ล่างสุด คือแรงงาน นับตั้งแต่บริษัท รัฐ ผู้บริโภค ร้านอาหาร ที่ได้ประโยชน์ แต่ไรเดอร์รับความเสี่ยงไว้เต็มๆ ปัญหาอุบัติเหตุมันฟ้องให้เห็นความไม่เป็นธรรมในระบบเศรษฐกิจ อุบัติเหตุบนท้องถนนคือสิ่งที่มันย้อนมาเอาคืนจากเรา ผู้เกี่ยวข้องต้องร่วมกันสร้างความเป็นธรรม ไม่อย่างนั้นอุบัติเหตุแก้ไม่ได้

           สำหรับการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั่วประเทศจะมีการจัดทำออกมาเป็นรายงานผลการวิจัยในเร็ว ๆ นี้